วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ถ่ายรูปศิลปินในหัวใจของผม


Morepiixel

               


                 ก่อนอื่นต้องขอกล่าวสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ นี่ก็เป็นการเขียนบล๊อกครั้งที่สองของผมแล้ว ก็ยังเกี่ยวกับถ่ายรูปคอนเสิร์ตครับผม แต่ตอนนี้จะพิเศษสำหรับผมและภรรยามากๆ ครับ เพราะศิลปินที่ผมไปถ่ายรูปในวันนี้ คือ BODY SLAM ... เราทั้งคู่รักวงนี้มากๆ รู้สึกว่าเวลาได้ไปดูคอนเสิร์ต เราสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความเป็นกันเอง ความสนุก ความฝันและความเชื่อที่คนธรรมดาอย่างเราสามารถทำมันได้ถ้าไม่ล้มเลิก ไปดูคอนเสิร์ตบอดี้สแลมมาก็หลายรอบ และก็ยังประทับใจทุกครั้ง ถึงจะร้องเพลงตามพี่ตูนจนเสียงแหบ กระโดดจนปวดขา ก็ยังสนุกและไม่อยากเลิกเลยครับ ฮ่า ฮ่า

                 






                   
                  ระยะเวลาในการแสดงก็ประมาณ 2ชั่วโมงครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่พี่ตูนร้องเพลงจบ พี่ตูนก็พูดขึ้นมาว่า "วันนี้ผมไม่สบาย เมื่อเช้าผมไปหาหมอมา หมอบอกว่าให้งดร้องเพลง 2อาทิตย์ พี่ตูนตอบหมอไปว่า ครับ" พี่ตูนพูดแล้วก็หัวเราะ แล้วก็พูดว่าวันนี้ผมหนีหมอมาขึ้นคอนเสิร์ต หมอไม่รู้หรอก ฮ่า ฮ่าจะให้ผมหยุดร้องเพลงตั้ง 2อาทิตย์ แค่วันเดียวผมยังหยุดไม่ได้เลย เท่านั้นแหละเสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม พอผมได้ฟังพี่ตูนพูดแบบนั้น ผมรู้สึกขอบคุณ แล้วก็คิดในใจว่า สงสัยวันนี้กูเสียงแหบอีกแล้ว คอนเสิร์ตก็ดำเนินต่อไป ก็ตามสไตล์พี่ตูนครับ ถามเป็นธรรมเนียม เหนื่อยยังพวกเรา พวกเราตอบกลับไปอย่างไวครับว่า ยังงงงง.... แต่ก่อนหน้านี้มีน้องผู้หญิงเป็นลมไปแล้ว 1คน แฟนเพลงเยอะมากๆ ครับ แน่นไปหมด แต่ละคนทั้งร้องทั้งกระโดดไม่ยอมแพ้ศิลปินเลยจริงๆ พี่ปี๊ดพอขึ้นมายืนบนแท่นทีไร เหล่าสาวๆ ก็กรี๊ดกันแทบจะสลบ หนึ่งในนั้นรวมภรรยาผมด้วยครับ ส่วนพี่ยอดก็สุดยอดสมชื่อครับ Soloกีต้าร์พร้อมกับสะบัดผมยาวสยาย พี่ชัชนี่ก็ไม่ธรรมดาครับ มือกลองระดับจักวาล ตีแบบไม่คิดชีวิต ส่วนพี่โอมมือคีย์บอร์ดสมาชิกคนที่ 5ของวง คอยประสานเสียงกับวง เจ๋งสุดๆ ครับ 

                  ทุกครั้งที่วง BODY SLAM ขึ้นทำการแสดงคอนเสิร์ต พี่ตูนชอบพูดอยู่เสมอเกี่ยวกับความฝัน ความเชื่อและความพยายาม เพื่อที่จะให้กำลังใจเพื่อนมนุษย์ที่ตั้งใจทำในสิ่งที่ตนเองรักและศรัทธาให้สำเร็จ พี่ตูนจะชี้ที่ตัวเองแล้วพูดว่า "ผมเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่อยู่สุพรรณ เรือสักลำยังไม่มีผ่านเลย ผมยังมาถึงที่ตรงนี้ได้ พวกคุณทุกคนก็ต้องมาได้เหมือนกันใช่ไหม" แล้วก็ให้ชูกำปั้นขึ้น มันคือสัญลักษณ์ของคนที่มีความเชื่อและความฝันครับ มันเป็นเหมือนสัญญาระหว่างเราทุกคนกับพี่ตูนว่า เราจะไม่ยอมแพ้ แม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมคิดว่าการกระทำแบบนี้มันลึกซึ้งเกินกว่าคนที่ไม่เคยทำอะไรจริงๆ จังๆ จะเข้าใจได้ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่ไม่เคยล้มเหลว แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ล้มเหลวแล้วไม่เคยยอมแพ้ต่างหากล่ะ

                  จนกระทั่งมาถึงเพลงสุดท้าย ก่อนที่จะเริ่มเล่น ไฟทุกดวงดับครับ รอบๆ เวทีถูกปกคลุมไปด้วยความมืด แฟนเพลงทุกคนก็ตะโกนออกมาว่า เอาอีก เอาอีก เอาอีก พี่ตูนเดินออกมาแล้วบอกให้ทุกคนเปิดไฟมือถือแล้วชูขึ้นสูงๆ เหมือนภาพความประทับใจในคอนเสิร์ต B13 ครับ ทันใดนั้นบริเวณรอบๆ ก็สว่างไปด้วยดวงดาวนับร้อยที่เราทุกคนช่วยกันสร้างมันขึ้นมา ภาพที่ผมเก็บได้เป็นบางส่วนนะครับ หามุมไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะครับ



                   เพลงสุดท้ายคือเพลง ชีวิตยังคงสวยงาม ครับ ทุกๆ คนร้องเพลงนี้สุดเสียง พร้อมกับโบกดวงดาวที่อยู่ในมือไปมา ซ้ายขวาๆ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ ครับ เชื่อเลยว่าพลังจากศิลปินส่งมาถึงแฟนเพลงได้จริงๆ 

"ขอบคุณมากๆ ถ้าไม่มีทุกคน ก็ไม่มีพวกเราบอดี้สแลมในวันนี้ครับ ขอบคุณ แล้วเจอกัน"

                  












































                  
 สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านบล๊อกของผมนะครับ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณศิลปินสุดรักของผมและภรรยา ที่ช่วยเติมเต็มและช่วยสร้างประสบการณ์ที่หาได้ยากเช่นนี้ครับ ผมรัก BODY SLAM ครับ 555555+

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

https://www.facebook.com/Morepiixel-700681263404592/?pnref=lhc

https://www.facebook.com/morepiixelsocial

http://morepiixel.blogspot.com/